ตำบลบางไทร เป็น 1 ใน 6 ตำบลของอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำตาปี ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 8 กิโลเมตร สภาพพื้นทีส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม มีน้ำท่วมขังขึ้นลง ประมาณ 3 เดือน มีลำคลองใหญ่น้อยไหลผ่าน สภาพริมสองฝั่งคลองร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้ขึ้นตามธรรมชาติ โดยเฉพาะต้นจาก ที่ขึ้นอยู่รวมกันหนาแน่นมาก จนกลายเป็นดงจากหรือที่เราเรียกว่าป่าจาก เสมือนเป็นเขื่อนมีชีวิตของชุมชน ทัศนียภาพที่สวยงาม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนั่งเรือเที่ยวชมธรรมชาติสองฝั่งคลอง วิถีชีวิตที่เรียบง่ายสงบงาม บ้านโบราณอายุ100ปี และระบบนิเวศน์ป่าชายเลนอันสมบูรณ์
ที่สำคัญตำบลบางไทรมี บางไทรอโรคยา ที่สืบทอดการรักษาผู้ป่วยด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ที่ใช้การตรวจชีพจรตรีธาตุ และการรักษาโรคด้วยวิธีปรับสมดุลตรีธาตุ มีทั้งการใช้ยาต้มสมุนไพร และการนวดกดจุดรักษาโรคตามภูมิปัญญาการแพทย์พื้นบ้าน
โดยชุมชนตำบลบางไทรมุ่งเน้นการพัฒนาให้เป็นเมืองสมุนไพร ตักสิลาแห่งการแพทย์แผนไทยลุ่มน้ำตาปี ศูนย์กลางการผลิตสมุนไพรตำรับต่างๆที่พัฒนาต่อยอดจากภูมิปัญญาพื้นบ้าน และเป็นหนึ่งในเส้นทางท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในเขตคลองร้อยสาย ชุมชนมีความเข้มแข็งด้านภูมิปัญญาการรักษาสุขภาพแบบแผนไทย มีสินค้าสมุนไพรจากพิกัดยาไทยโบราณ และประสบความสำเร็จในระดับประเทศอีกด้วย
วิสาหกิจชุมชนรักษ์สมุนไพรตำบลบางไทร
โทร. 0 7729 2486
โทร. 08 6398 6851
ศูนย์บริการข้อมูลเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยชุมชนบางไทร องค์การบริหารส่วนตำบลบางไทร
โทร. 0 7729 2477-8
เพียงโพสต์รูปภาพในทริป “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพคลองร้อยสาย” ของคุณ โดยระบุสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมบรรยายความประทับใจที่ได้ว่า “เที่ยวที่นี่สุขภาพดีอย่างไร ”
พร้อมแฮชแท็ก #เที่ยวที่นี่สุขภาพดี๊ดีที่คลองร้อยสาย และเช็คอินในสถานที่นั้น ๆ
ลงในสื่อออนไลน์ของคุณ ทั้ง Facebook /Instagram / Twitter
เพื่อลุ้นรับสิทธิส่วนพิเศษต่างๆ จากที่พัก ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ สถานที่นวดและสปา
บนเส้นทางคลองร้อยสายที่เข้าร่วมโครงการ (เงื่อนไขเป็นไปตามที่ร้านค้ากำหนด)
คลองร้อยสาย เป็นชื่อเรียกของลำน้ำเล็ก ๆ ที่แตกแขนงมาจากแม่น้ำตาปี ซึ่งมีคลองเล็กคลองน้อยนับร้อยสาย โดยจะประกอบไปด้วยพื้นที่ 6 ตำบลของอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ได้แก่ ตำบลบางใบไม้ ตำบลบางชนะ ตำบลคลองฉนาก ตำบลบางไทร ตำบลคลองน้อย และตำบลบางโพธิ์ ซึ่งชุมชนเหล่านี้เป็นชุมชนชนบทที่แผงอยู่ในตัวเมือง ทำให้ผู้คนทั่วไปขนานนามผู้คนในพื้นที่ว่า “คนในบาง”